ประดุจดวงประทีปนำทาง
แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินใต้เบื้องพระยุคลบาท ไม่มีที่แห่งหนใด ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จเยือนไปไม่ถึง ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ที่พระองค์ทรงห่วงใยราษฎร ห่วงใยพสกนิกรที่ด้อยโอกหาสทางสังคมในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพสกนิกรที่ด้อยโอกาสทางสติปัญญา นับเป็นนิมิตหมายอันดียิ่งของผู้ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาในประเทศไทย และเหล่าข้าราชการของสถาบันราชานุกูลที่ได้เกิดมาภายใต้เบื้องพระยุคลบาทแห่งพระมหากษัตริย์ผู้เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาพระองค์นี้
“ราชาเป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชู”
สถาบันราชานุกูล เดิมมีชื่อว่า โรงพยาบาลปัญญาอ่อน เป็นโรงพยาบาลพิเศษเฉพาะที่ตั้งขึ้น เพื่อให้บริการด้านบำบัดรักษาแก่ผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา แห่งแรกในประเทศไทย โดยมีพิธีรับมอบเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2503
ต่อมาทางโรงพยาบาลได้จัดบริการด้านการฝึกอบรม โดยเริ่มมีห้องเรียนในปีแรกเพียงห้องเดียว กั้นแบ่งออกจากตึกนอนของคนไข้ส่วนหนึ่ง นำมาใช้บริการนี้และมีพยาบาลช่วยกันสอนในระยะแรก เนื่องจากยังไม่มีตำแหน่งครู หลักการสอนในชั้นเรียนก็เพียงเพื่อตรึงนักเรียนให้รู้จักสิ่งรอบๆ ตัวเองและให้มีกิจกรรมทำเท่านั้น อีก 2 ปี ต่อมาโรงเรียนขยายเป็น 3 ห้องเรียน ซึ่งขณะนั้นเริ่มมีครูอาชีวะ และครู ป.กศ. เข้ามาร่วมสอนแต่บางห้องก็ยังใช้พยาบาลช่วยทำการสอนอยู่ จนในปี 2506 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาพระราชทานเงินรายได้จากการฉายภาพยนตร์ส่วนพระองค์ ชุดเสด็จฯเยือนประเทศมาเลเซีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เพื่อสร้างโรงเรียนสอนเด็กที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาขึ้น ให้รู้จักช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน สามารถปรับตัวและเรียนรู้การอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างปกติสุข รวมถึงการสอนวิชาชีพให้ตามความถนัดของเด็กที่สามารถจะเรียนรู้ได้ นับเป็นต้นแบบโรงเรียนการศึกษาพิเศษแห่งแรกในประเทศไทย และพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “โรงเรียนราชานุกูล” โดยมีห้องเรียน 10 ห้อง มีรูปแบบอาคารที่เป็นสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัย และต่อมาจึงได้งบประมาณพัฒนาสร้างอาคารเรียนเพิ่มขึ้นอีก 1 หลัง ทำให้การเรียนการสอนสมบูรณ์ขึ้น ตั้งแต่นั้นมากิจการของโรงเรียนได้ก้าวหน้าเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งศึกษาดูงานของนิสิตนักศึกษา แพทย์ พยาบาลและครู
ในเวลาต่อมา...โรงพยาบาลปัญญาอ่อนจึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใช้ชื่อ
“โรงพยาบาลราชานุกูล” เช่นเดียวกับชื่อของโรงเรียน ซึ่งได้มีพระบรมราชานุญาต เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2522 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง นำมาซึ่งความปลาบปลื้มต่อผู้ป่วย และญาติพี่น้อง ตลอดจนบุคลากรของโรงพยาบาลฯ โดยทั่วหน้า
พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่มีต่อสถาบันราชานุกูลและผู้พิการทางสติปัญญา