ปัญหาสุขภาพจิต ประเด็นฆ่าหั่นศพ !!!

       ทุกครั้งที่มีข่าวการฆ่าหั่นศพเกิดขึ้น สื่อหลายสำนักต่างฟันธงไปก่อนว่า ผู้ต้องหาเป็นฆาตกรโรคจิต ทั้งที่เขา หรือเธอยังไม่ได้ผ่านการตรวจประเมินจากทีมจิตแพทย์ด้วยซ้ำ คำถาม คือ จำเป็นหรือไม่ที่ฆาตกรฆ่าหั่นศพต้องเป็นโรคจิตทุกราย นพ.ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มีคำตอบ
       นพ.ศิริศักดิ์ กล่าวว่า จากการสืบค้นข้อมูลเหตุการณ์คนไทยมีพฤติกรรมฆ่าหั่นศพตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 จนถึงปัจจุบัน รวบรวมเฉพาะกรณีที่ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ มีจำนวน 10 ราย ดังนี้พ.ศ. 2534
       นายปรีชา ฉัตรชัยสกุล วัย 39 ปี พนักงานขายประกัน บริษัทประกันชีวิต บีบคอพี่สาวแท้ ๆ วัย 42 ปี และจับกดน้ำก่อนฆ่าหั่นศพ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ต่อเนื่องวันที่ 4 ธ.ค. 2531 โดยหั่นศพออกเป็น 9 ชิ้นใส่ถุงและยัดไว้ในถังพลาสติกเป็นเวลา 3 ปีต่อมาจึงพบศพในปี 2534 นับเป็นคดีฆ่าหั่นศพรายแรกของประเทศไทย สาเหตุ การฆ่าหั่นศพเป็นการทำลายหลักฐานเพื่ออำพรางคดีพ.ศ. 2541
       นายเสริม สาครราษฎร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.เจนจิรา พลอยองุ่นศรี แฟนสาว นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ชั้นปีที่ 5 มหาวิทยาลัยมหิดล สาเหตุ การฆ่าหั่นศพเป็นการทำลายหลักฐานเพื่ออำพรางคดี

พ.ศ. 2545
  1. นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ สูตินรีแพทย์ รพ.จุฬาฯ ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร ภรรยาตนเอง แพทย์ประจำ รพ.รถไฟ สาเหตุ การฆ่าหั่นศพเป็นการทำลายหลักฐานเพื่ออำพรางคดี
2. นายบุญหนา มาพิบูรณ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/2 ซอยทองคำอุทิศ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ฆ่าหั่นศพเพื่อนชื่อ นายชาญชัย น้ำใจ อายุ 37 ปี สาเหตุ 1. ป่วยเป็นโรคจิต มีอาการทางจิต มีหูแว่วเป็นเสียงคล้ายกับมีคลื่นวิทยุ หรือคลื่นเสียงมารบกวน ทำให้รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก 2.โมโหผู้ตายที่ไม่ได้ยินเสียงหูแว่วของตน จึงใช้มีดพร้าที่อยู่ในบ้านฟันมือทั้งสองข้าง เมื่อล้มลงก็ฟันคอซ้ำจนขาด แล้วหั่นมือและเท้า และ 3. ไม่ได้รับประทานยาทางจิตเวชอย่างต่อเนื่อง มีประวัติรับการรักษาทางจิตที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี

 พ.ศ. 2552
1. นายสิริพงศ์ หรือ ใหญ่ กาญจนนิวิฐ อาชีพโชเฟอร์แท็กซี่ ฆ่าหั่นศพ ด.ช.โช มาคิโน่ อายุ 5 ขวบ หลังจากใช้ปืนยิงนางสุนันท์ ศรีสุวรรณ หรือ มาคิโน่ อายุ 38 ปี มารดาของ ด.ช.โช และ ด.ช โช จนเสียชีวิต และ ยิง ด.ญ.พิชญา หรือ น้องมิ้นท์ จงงามวิไล อายุ 15 ปี บุตรสาวของนางสุนันท์ ได้รับบาดเจ็บ สาเหตุ การฆ่าหั่นศพเป็นการทำลายหลักฐานเพื่ออำพรางคดี
2. นายณัฐ ฉายานนท์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้น ปวส. สถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี อยู่บ้านเลขที่ 8/71 หมู่ 4 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อคดีสยองฆ่าหั่นศพเกย์หนุ่มคู่ขา นายฐิติรัตน์ สมหมาย อายุ 37 ปี สาเหตุ การฆ่าหั่นศพเป็นการทำลายหลักฐานเพื่ออำพรางคดี
3. ด.ช.กาย (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ราษฎร ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ฆ่าหั่นศพนายคำ พุทธเสน อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นตาแท้ ๆ ของตัวเอง สาเหตุการฆ่าหั่นศพเป็นการทำลายหลักฐานเพื่ออำพรางคดี
4 . น.ส.นาฎนภา แพนไทสง อายุ 20 ปี ชาวขอนแก่น สารภาพกินยาขับทำแท้งลูกวัย 5 เดือน ก่อนนำศพไปสับเป็นชิ้น ๆ อย่างละเอียด เพื่อนำไปทิ้งท่อน้ำหอพัก แต่ท่อตันเลยหิ้วไปทิ้งถังขยะ สาเหตุการฆ่าหั่นศพเป็นการทำลายหลักฐานเพื่ออำพรางคดี

พ.ศ. 2555
1. หญิงสาวเผ่ามูเซอ อายุ 26 ปี ฆ่าหั่นศพบุตร 2 คน วัย 5 ขวบ และ 1 ขวบ ที่บริเวณพื้นที่บ้านป่าแดง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ สาเหตุ 1. ป่วยเป็นโรคจิต มีอาการหลงผิดคิดว่าลูกเป็นหมู 2. ไม่ได้รับประทานยาทางจิตเวชอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าหญิงสาวรายนี้เป็นโรคทางจิตเวช ตั้งแต่ พ.ศ. 2550 ในเบื้องต้นได้รักษาโรคด้วยการกินยาระงับอาการทางประสาทของโรงพยาบาลฝาง
2. น.ส.พรสุรีย์ ดีแผ่ว อายุ 36 ปี ฆ่าสามีชื่อ นายประสิทธิ์ ศรีสมบุญญานนท์ อายุ 47 ปี อดีตดีไซเนอร์ สาเหตุ 1. มีอาการประสาทหลอนทางหู โดยมีหูแว่วเป็นเสียงสั่งให้ฆ่า เห็นภาพหลอน และมีอาการหลงผิด โดยมีความคิดระแวงว่าสามีไม่ได้ป่วยเป็นอัมพาตจริงแต่แกล้งเดินไม่ได้  2. ใช้สารเสพติด ดื่มสุราและใช้ยาบ้าก่อนก่อคดี 3. มีความแค้นที่ผู้ตายมักจะลงมือทำร้ายตนบ่อยครั้ง จึงมีความคิดไม่อยากให้ไปทำร้ายบุคคลอื่นอีก 4. ไม่ได้รับการรักษาทางจิตเวช
        จากการสืบค้นข้อมูลยังมีการพบศพที่ถูกฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วนอีกหลายรายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ตายเป็นใคร รวมถึงไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ แต่น่าจะเป็นการกระทำไปเพื่อทำลายหลักฐานและอำพรางคดี
       
     ในจำนวนผู้ก่อเหตุ 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย 7 ราย เพศหญิง 3 ราย และยังพบว่า ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคทางจิตเวช 7 ราย มีเพียง 3 รายเท่านั้นที่ป่วยเป็นโรคทางจิตเวช โดยเป็นผู้ป่วยจิตเวชหญิง 2 ราย และ ผู้ป่วยจิตเวชชาย 1 ราย
  
      นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น พบว่า สาเหตุที่ส่งผลให้มีพฤติกรรมฆ่าหั่นศพ สรุปได้เป็น 2 กรณี ดังนี้ 1. กรณีผู้ก่อเหตุไม่ได้ป่วยเป็นโรคทางจิตเวช พบว่า สาเหตุที่กระทำการฆ่าแล้วหั่นศพ เป็นการทำลายหลักฐานเพื่ออำพรางคดี 2. กรณีผู้ก่อเหตุป่วยเป็นโรคทางจิตเวช พบว่า สาเหตุที่กระทำการฆ่าแล้วหั่นศพ เกิดจากป่วยเป็นโรคจิต มีอาการทางจิตกำเริบ เช่น มีอาการประสาทหลอนทางหู ได้ยินเสียงหูแว่ว เห็นภาพหลอน มีอาการหลงผิด หวาดระแวง บกพร่องในการควบคุมอารมณ์ ไม่ได้รับประทานยาทางจิตเวชอย่างต่อเนื่อง ใช้สารเสพติด ดื่มสุราและใช้ยาบ้าก่อนก่อคดี ป่วยเป็นโรคทางจิตเวช แต่ไม่เคยได้รับการรักษา
  
     จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่าคนธรรมดาทั่วไปมีพฤติกรรมฆ่าหั่นศพมากกว่าคนที่ป่วยเป็นโรคทางจิตเวชด้วยซ้ำ ในกรณีที่ป่วยเป็นโรคทางจิตเวชหากได้รับการรักษา ให้ยาอย่างเหมาะสมโอกาสไปก่อคดีก็น้อยลง.

นวพรรษ บุญชาญ


  ขอขอบคุณที่มา http://www.dailynews.co.th/article/1490/160755


  View : 7.78K


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง


 วันนี้ 0
 เมื่อวาน 13
 สัปดาห์นี้ 62
 สัปดาห์ก่อน 97
 เดือนนี้ 345
 เดือนก่อน 536
 จำนวนผู้เข้าชม 476,781
  Your IP : 18.216.123.120