ปั้นลูกรักเป็นนักแบ่งปัน

รวบรวมข้อมูลโดย ฝ่ายสื่อสารองค์กรและเทคโนโลยี

        ปัญหาการหวงของ หรือ พฤติกรรมการแย่งของในเด็กเล็กนั้น ถือว่าเป็นพฤติกรรมธรรมชาติตามวัยของเด็กอายุ 2-4 ขวบ แต่ทั้งนี้เด็กสามารถเรียนรู้เรื่องการแบ่งปันให้กับเพื่อนรอบข้างได้เช่นกัน
คุณพ่อกับคุณแม่ที่มีลูกวัย 2-4 ขวบ มักจะสังเกตเห็นพฤติกรรมของลูกน้อยหวงของเล่นสุดโปรด และคิดว่าของทุกอย่างนั้นเป็นของตัวเอง และแบ่งของเล่นให้เพื่อนค่อนข้างยาก พญ.โชษิตา ภาวสุทธิไพศิฐ จิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กล่าวถึงพฤติกรรมนี้ว่า
      “พฤติกรรมนี้เริ่มจากที่เด็กเรียนรู้และรู้จักว่าของเล่นนี้คือของๆ เขาคนเดียว ส่วนพัฒนาการด้านสังคมนั้น เด็กจะเล่นอยู่กับตัวเอง ยังเล่นกับคนอื่นไม่เป็น ในวัยของเล่นช่วงนี้เด็กมักจะหวงของเล่นมากกว่าของกิน เพราะว่าของเล่นจะเป็นชิ้นที่ไม่สูญหาย และถ้าเป็นระดับของเล่นที่เด็กรักเช่น ของเล่นติดเตียงก็จะมีความหวงมากเป็นพิเศษ เพราะมีความผูกพันทางจิตใจ”
       ในการแก้ไขพฤติกรรมลูกน้อย ให้เรียนรู้การแบ่งปันสู่คนรอบข้างนั้น พญ.โชษิตา อธิบายต่อว่า “พ่อกับแม่ควรสร้างโอกาสให้ลูกได้ฝึกการแบ่งปัน ไม่ให้เคยชินกับการเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง การที่ได้รับของเล่นมานั้นเด็กจะต้องเรียนรู้ว่าของเล่นนั้นไม่ได้เป็นของเขาคนเดียว พ่อแม่ พี่น้อง หรือคนรอบข้างสามารถเล่นได้ด้วย จะฝึกเขาได้โดย (1) กำหนดช่วงเวลาการเล่น เช่น เข็มยาวถึงเลขบนเข็มนาฬิกาที่พ่อแม่กำหนดไว้ ลูกจะต้องหยุดเล่นและแบ่งของให้คนอื่นเล่น (2) พ่อกับแม่ต้องเป็นแบบอย่างในการแบ่งปัน โดยทำให้ลูกได้เห็นพฤติกรรมดังกล่าวด้วย (3) การชื่นชม เช่น การปรบมือ หรือชมว่าเก่งจังเลย เมื่อลูกแสดงพฤติกรรมการแบ่งปันให้คนรอบข้างจะเป็นการให้แรงเสริมกับลูก และเป็นการเรียนรู้ของลูกว่าเมื่อทำพฤติกรรมเช่นนี้แล้วจะได้รับการชื่นชม ในทางตรงกันข้าม คำพูดที่พ่อกับแม่ไม่ควรใช้คือ คำพูดที่ขู่บังคับ หรือการพูดเชิงมีข้อแลกเปลี่ยน เพราะเด็กจะเข้าใจว่า เขาจะแบ่งปันได้เมื่อต้องมีของมาแลกเปลี่ยนเสมอๆ”
       นอกจากนี้แล้วเคล็ดลับอีก 2 ข้อ ที่จะทำให้ลูกน้อยได้เรียนรู้เรื่องการแบ่งปันมากขึ้นคือ การชวนลูกมีส่วนร่วมในการทำอาหารหรือเครื่องดื่มง่ายๆ เพื่อแบ่งปันให้เพื่อนกิน วิธีการนี้ทำให้เด็กอยากเป็นผู้ให้มากขึ้น และเป็นการสร้างความภูมิใจด้วย  การอ่านนิทานเกี่ยวกับการแบ่งปันให้ลูกฟัง เป็นการบ่มเพาะนิสัยการแบ่งปัน โดยการใช้โทนเสียงที่น่าสนใจทำให้ลูกเชื่อมโยงอารมณ์ไปกับพ่อแม่ด้วย
       พญ.โชษิตา ให้คำแนะนำสำหรับครอบครัวที่มีลูกคนเดียวที่อยากสอนลูกเรื่องการแบ่งปันว่า “ครอบครัวที่มีลูกคนเดียวนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะได้รับของเล่นจำนวนมากจากผู้ใหญ่หลายๆ คน และจะมีธรรมชาติของการหวงของมากกว่าครอบครัวที่มีลูกหลายคน ดังนั้นพ่อกับแม่สามารถสร้างโอกาสการแบ่งปันได้โดยการพาลูกไปบริจาคของให้เด็กที่ขาดโอกาส เพื่อแสดงออกถึงการเป็นผู้ให้ตั้งแต่เด็ก หรือการเข้าสังคมกับเพื่อนๆ ในโรงเรียน ก็จะสามารถลดพฤติกรรมการหวงของได้
       สำหรับครอบครัวที่มีลูกมากกว่า 1 คน ลูกคนโตจะมีโอกาสแบ่งของให้มากกว่าน้องคนเล็ก พ่อกับแม่ต้องสร้างสมดุลของการให้และการรับที่เหมาะสมและเท่าเทียม เรียนรู้ให้ลูกทุกคนเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ”
       เมื่อลูกน้อยเรียนรู้ที่จะแบ่งปันสู่คนรอบข้าง พฤติกรรมการหวงของที่คุณพ่อกับคุณแม่หลายๆท่านเป็นกังวลก็จะหมดไปค่ะ...

อาภาวรรณ โสภณธรรมรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th


  View : 2.69K


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง


 วันนี้ 1,061
 เมื่อวาน 1,846
 สัปดาห์นี้ 9,561
 สัปดาห์ก่อน 17,407
 เดือนนี้ 46,278
 เดือนก่อน 65,202
 จำนวนผู้เข้าชม 838,929
  Your IP : 3.133.108.47