สามี-ภรรยานอกใจทำไงดี?

ผลิตและเผยแพร่โดยฝ่ายสื่อสารองค์กร กลุ่มพัฒนายุทธศาสตร์

     พลันที่รู้ว่าสามีหรือภรรยานอกใจไปมีคนใหม่ อีกฝ่ายอาจรู้สึกโกรธ เกลียด เคียดแค้น ชิงชัง บางคนตกอยู่ในอารมณ์โศกเศร้า ทุกข์ใจ มืดแปดด้าน ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ถ้าตกลงพูดคุยเจรจากันได้ก็ดีไป แต่หลายคู่จบด้วยการแยกทาง บ้านแตก ทำร้ายร่างกายกันจนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต ใครที่ตกอยู่ในสภาพดังกล่าวฟังทางนี้

    นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข บอกว่า อันดับแรกต้องตั้งสติให้ดีก่อนว่ามีการนอกใจจริงหรือไม่ ไม่ใช่มีคนมาเล่าให้ฟัง นินทา กล่าวหา แล้วก็เชื่อ บางทีสามีอาจจะไปมีอะไรชั่วครั้งชั่วคราว เพราะผู้ชายไทยส่วนใหญ่ชอบเที่ยวนอกบ้าน ดังนั้นต้องดูให้ชัด

     ผู้ชายไทยมีแนวโน้มการนอกใจมากกว่าผู้หญิง ไล่ตั้งแต่ค่านิยม ธรรมเนียมปฏิบัติ และโอกาส ที่ผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิงเพราะผู้ชายต้องไปทำงานนอกบ้าน ไปสังสรรค์นอกบ้าน แต่ผู้หญิงค่านิยมของบ้านเราคือต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน เพราะฉะนั้นผู้ชายจึงมีโอกาสนอกใจมากกว่าผู้หญิง เพราะมีสิ่งยั่วยุ ยั่วยวน ที่อาจทำให้หลงไปชั่วครั้งชั่วคราวหรือถาวรได้มากกว่า ทั้งนี้การที่ฝ่ายชายนอกใจอาจถูกมองว่าเจ้าชู้ แต่ถ้าเป็นฝ่ายหญิงอาจถูกมองว่าหลายใจ ไม่ดี เนื่องจากค่านิยมหล่อหลอมมาแบบนี้ คือ ผู้ชายเจ้าชู้ได้ แต่ถ้าผู้หญิงเจ้าชู้จะถูกมองอีกแบบหนึ่ง ตรงนี้เป็นความไม่เท่าเทียม

     ถ้าตรวจสอบว่านอกใจชัดเจนแล้ว ต้องตั้งสติให้ดี ดูเหตุผล ว่าเพราะอะไร ตัวเขา ตัวเรา หรือสภาพแวดล้อม มีบุคคลที่สามมากระตุ้น แล้วมาประมวลว่าจะแก้ไขปัญหาทั้งหมดของชีวิตอย่างไร

     แนวทางการแก้ไขปัญหา มีดังนี้ 1. อยู่ด้วยกัน โดยทนอยู่เพื่อลูก เพื่อชื่อเสียง เพราะบางคนการหย่าก็มีผลกระทบ หรือทนอยู่เพราะทนได้ ขอกันกิน มันก็แล้วแต่เหตุผลของแต่ละคน  2. อยู่ด้วยกันแบบมีเงื่อนไข เช่น จุดไหนที่รับได้ ระดับใดที่รับได้ ระดับใดที่รับไม่ได้ บางคนบอกว่า อย่ามีเป็นตัวเป็นตน นิด ๆ หน่อยได้ เพราะไม่พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของอีกฝ่ายได้ในหลากหลายรูปแบบ และ
3. แยกทางกัน ต้องดูผลกระทบ ซึ่งแต่ละทางเลือกจะมีข้อดีข้อเสีย ก็ต้องดูว่าทางเลือกไหนดีที่สุด

    ถ้าตกลงจะอยู่ด้วยกันแบบมีเงื่อนไขต้องมาตกลงกติกากัน ว่าขนาดไหนอีกฝ่ายถึงจะยอมรับได้ โดยมีความสุขทั้งสองฝ่าย ถึง แม้จะไม่ใช่ระดับที่สูงสุดแต่เป็นระดับที่ยอมรับได้

    ถ้าตั้งสติหาเหตุหาผล ความคิดจะมาก่อนอารมณ์ แต่ถ้าไม่ตั้งสติอารมณ์หึงหวง ความรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ความรู้สึกเสียหน้า เสียศักดิ์ศรี จะรุนแรง ถ้าอารมณ์มาก่อนการพูดคุยก็ไม่เกิดขึ้น แต่จะเกิดปัญหาทะเลาะวิวาท ยิ่งเบื่อที่จะอยู่ด้วยกัน สุดท้ายต้องหย่ากันไป โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจตามมา เช่น ผลกระทบต่อลูก

    บางครั้งการคุยกันสองต่อสองอาจตกลงกันไม่ได้ ต้องมีคนกลางมาช่วยไกล่เกลี่ย เช่น พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย หรือญาติผู้ใหญ่ที่ทั้งสองฝ่ายเคารพนับถือ เช่น ผู้ใหญ่ที่ทั้งสองฝ่ายเคยเชื้อเชิญมาเป็นเจ้าภาพสู่ขอ หรือเป็นเจ้าภาพงานแต่ง แต่ทุกวันนี้กลไกนี้อาจลดความเข้มแข็งลงไป อย่างไรก็ตามในการพูดคุยกันควรจะมีคนกลาง สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปปรึกษาใครจริง ๆ โทรฯ มาปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 ก็ได้

ทำไมคนสองคนรักกัน ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน แต่วันหนึ่งกลับมานอกใจกัน?

    นพ.วชิระ กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นเพราะความไม่พอดี ไม่สมดุล อาจจะศึกษานิสัยใจคอกันไม่ถ่องแท้ ตอนรักกันก็หน้ามืดตามัว ยังไม่เห็นธาตุแท้ของอีกฝ่าย พอแต่งงานกันไปต่างฝ่ายต่างแสดงธาตุแท้ของตัวเองออกมา อีกฝ่ายอาจรับไม่ได้ ดังนั้นระหว่างคบหากันยังไม่แต่งงานกันควรเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง และเรียนรู้ที่จะยอมรับอีกฝ่าย

    การใช้ชีวิตคู่ อยู่ด้วยกัน สิ่งไหนที่ไม่ชอบใจควรจะบอกกันตรง ๆ เปิดอกพูดคุยกัน อันไหนทำได้ อันไหนทำไม่ได้ หลายครอบครัวมีปัญหาการสื่อสาร เพราะสื่อสารไม่ตรงไปตรงมา ไม่กล้าพูดกันตรง ๆ กระแหนะกระแหน งอนง้อ พูดเสียดสีกันก็มี ดังนั้นแนะนำว่า ต้องหาช่องทางสื่อสารกันเพื่อปัญหาต่าง ๆ จะได้คลี่คลาย.


นวพรรษ บุญชาญ : รายงาน


 


  View : 45.84K


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง


 วันนี้ 0
 เมื่อวาน 13
 สัปดาห์นี้ 62
 สัปดาห์ก่อน 97
 เดือนนี้ 345
 เดือนก่อน 536
 จำนวนผู้เข้าชม 476,781
  Your IP : 44.200.179.138