รวบรวมข้อมูลโดย ฝ่ายสื่อสารองค์กรและเทคโนโลยี
อธิบดีกรมสุขภาพจิตย้ำพ่อแม่ควรชวนลูกทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ในช่วงปิดเทอม เพื่อเติมเต็มพฤติกรรมดีๆให้แก่ลูก
กรมสุขภาพจิต
เผยผลสำรวจซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมที่เด็กและวัยรุ่นนิยมทำช่วงปิดเทอมส่วนใหญ่มักเป็นกิจกรรมที่ไม่สร้างสรรค์ โดยเฉพาะการเล่นเกมอินเตอร์เน็ตจนติด ปัญหาที่ทำให้เด็กต้องออกจากโรงเรียนกลางครันปีละหลายหมื่นคน รวมทั้งการใช้อินเตอร์เน็ตดูภาพโป๊เปลือย มีเพศสัมพันธ์กับแฟน ฯลฯ ชี้ปิดเทอมคือช่วงเวลาคุณภาพของครอบครัว แนะ ผู้ปกครองควรใช้เวลาช่วงนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ชวนลูกๆ ออกไอเดียทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกัน ป้องกันไม่ให้ลูกไปแสวงหาความสุขในช่องทางที่ไม่เหมาะสม
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงผลสำรวจจากเว็บไซต์ dek-d.com เว็บสำหรับวัยรุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่วัยรุ่นอายุ 15-24 ปีนิยมทำในช่วงปิดเทอม มีทั้งกิจกรรมที่สร้างสรรค์และไม่สร้างสรรค์ด้านกิจกรรมสร้างสรรค์อันดับแรก คือการติดตามข่าวสารประจำวัน ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว และเล่นกีฬา ฯลฯ
ส่วนกิจกรรมไม่สร้างสรรค์อันดับแรกคือ เล่นเกมอินเตอร์เน็ต ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อดูภาพโป๊เปลือย ดูวิดีโอหนังโป๊ มีเพศสัมพันธ์กับแฟนหรือคู่รัก ไปดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ และคิดจะทำลายข้าวของและทำร้ายตัวเอง และยังพบอีกว่าช่วงปิดเทอม เด็กและวัยรุ่นกว่า 80% โดยเฉพาะเด็กในเขตเมืองน้ำหนักตัวจะขึ้น 3-4 กิโลกรัมเพราะส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการดูทีวี เล่นเกม กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์เด็กยิ่งเล็กจะยิ่งเล่นเกมมากกว่าเด็กโต ใน 1 วันเด็กจะใช้เวลาเล่นเกมมากกว่า 1 ชั่วโมงทำให้ติดเกม มีปัญหาในการควบคุมตนเองและส่งผลเสียต่อการเรียน ซึ่งพบว่าผลเสียจากการติดเกมทำให้เด็กถูกผลักออกจากโรงเรียนกลางครันปีละหลายหมื่นคน
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าหลายๆกิจกรรมที่วัยรุ่นทำในช่วงปิดเทอมส่วนใหญ่จะคล้ายๆกัน มักเป็นกิจกรรมที่ไม่สร้างสรรค์ นอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองเงินทองมากกว่าการได้ไปเปิดหูเปิดตาในยามพักเหนื่อยจากการเรียนแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่นทำให้อ้วน มีปัญหาต่อสายตา ฟันผุ ลดทอนพัฒนาการและอาจนำไปสู่ความก้าวร้าวในครอบครัวและส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมในที่สุด
อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวย้ำว่าข้อมูลต่างๆที่สะท้อนผ่านผลสำรวจนี้น่าจะทำให้พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในครอบครัวหันมาให้ความสำคัญกับลูกหลานวัยรุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ใหญ่บางคนที่คิดว่าช่วงปิดเทอมจะวุ่นวาย เพราะลูกต้องอยู่บ้านตลอดเวลา แต่จริงๆแล้วนี่คือช่วงเวลาคุณภาพที่ครอบครัวจะได้ทำกิจกรรมดีๆหรือกิจกรรมที่สร้างสรรค์ร่วมกัน พ่อ แม่ ผู้ปกครองควรใช้เวลาในวันหยุดยาวช่วงปิดเทอมนี้ให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด เพื่อเติมเต็มพฤติกรรมดีๆให้แก่ลูก
ลองหากิจกรรมที่หลากหลายและมีคุณค่าทำร่วมกับลูกๆ เช่น การทำงานบ้านร่วมกัน กวาดบ้านถูบ้าน เก็บข้าวของที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อให้เขาได้ซึมซับเรื่องราวความมีระเบียบ ความสะอาดภายในบ้านเข้าไปสู่ตัวตนของเขา การทำงานบ้านจะส่งผลให้เด็กๆได้เรียนรู้ถึงการอยู่ในสังคม ทำให้เขาเกิดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เกิดความคิด จินตนาการและมีอิสระจากการได้ลงมือทำจริงๆ ในระหว่างทำงานบ้านร่วมกันพ่อแม่จะได้มีโอกาสสอนและอบรมบ่มเพาะในเรื่องดีๆให้แก่ลูกด้วย
นอกจากนี้ควรส่งเสริมให้เด็กได้ทำกิจกรรมเพื่อสังคมหรือกิจกรรมจิตอาสาบ้าง เช่น การปลูกป่า เก็บขยะตามคลองหรือชายทะเลไปอ่านหนังสือให้กับน้องเล็กที่ป่วยในโรงพยาบาล ไปดูแลน้องๆที่บ้านเด็กอ่อน หรือเข้าวัดปฏิบัติธรรม ทำความสะอาดเก็บกวาดวัด ฯลฯ เพราะกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้เด็กวัยรุ่นได้ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์และสร้างสรรค์ ส่งผลดีต่อการพัฒนาจิตใจรู้จักการเป็นผู้ให้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่การบริจาคเงินหรือสิ่งของแต่เป็นการบริจาคแรงกายแรงใจ หลังจากที่ได้ทำก็จะรู้สึกว่าตนเองมีความสุขและมีคุณค่ามากขึ้น หรือไม่ก็อาจส่งเสริมให้เด็กใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมไปทำงานพิเศษที่เหมาะสมเพื่อเก็บออมเงินไว้ซื้อของที่อยากได้ในช่วงเปิดเทอมใหม่ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน
อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่ออีกว่าถ้าเป็นเด็กเล็กๆอาจพาไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือชายทะเล หรือไปอยู่กับญาติที่ไว้ใจได้ ถ้าเป็นระดับประถมอาจจะพาไปว่ายน้ำ ไปเข้าชมรมหรือเข้าค่ายถ้าเป็นค่ายแบบที่มีพ่อแม่ไปด้วยก็จะได้สนุกทั้งครอบครัวและจะเป็นประโยชน์มากเพราะพ่อแม่จะได้ไม่ต้องห่วง หากจะให้ลูกไปตามลำพัง(ต้องระดับประถม)ขอแนะนำให้เลือกค่ายที่ดี กิจกรรมต้องมีความชัดเจน สร้างสรรค์ มีความปลอดภัยและต้องมีเป้าหมายว่าจะปลูกฝังในเรื่องใดให้แก่เด็ก เช่นปลูกฝังเรื่องการช่วยเหลือตัวเองและรู้จักช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักการแบ่งปันและการทำงานเป็นกลุ่ม หรือถ้าลูกไม่เข้าค่าย พ่อแม่ก็ต้องทำตัวเป็นครูหรือพี่เลี้ยงของลูกช่วงวันหยุด เช่น เล่นกับลูก หรือพาลูกไปปิกนิกแถวบ้านหรืออาจจะทำอาหารไปกินกันเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศหรือพาลูกไปเที่ยว ชมธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นชมรมดูนก ชมรมปลูกป่า แรลลี่วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ กีฬา วาดภาพ ฯลฯ
"กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นกับลูกในช่วงปิดเทอมนี้ พ่อ แม่ต้องคำนึงในหลายๆ ด้าน ควรเหมาะสมกับลูก ตามสภาวะเศรษฐกิจหรือความสามารถในการใช้จ่าย ควรเป็นกิจกรรมที่ลูกชอบและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือก เพราะจะยิ่งช่วยให้เขามีความสุข และสนใจจะเรียนรู้เพื่อให้ตนเองได้ประสบการณ์ใหม่ๆที่ในโรงเรียนไม่มี ในขณะเดียวกันก็ต้องระมัด ระวังสอดส่องกิจกรรมที่ไม่สร้างสรรค์ด้วย เพราะถ้าบ้านไหนไม่มีกิจกรรมที่น่าสนใจแนวโน้มที่ลูกจะใช้เวลาว่างอย่างไม่สร้างสรรค์ย่อมมีได้สูง ช่วงปิดเทอมพ่อแม่ควรให้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับลูกๆบ้างเพราะจะเป็นการเพิ่มความหวัง ความสุขให้ลูก เพื่อป้องกันไม่ให้เขาไปแสวงหาความสุขในช่องทางที่ไม่เหมาะสม ที่สำคัญคือช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้นด้วย" อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวปิดท้าย
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์