ผลักดันวัคซีนสำหรับเด็ก

รวบรวมข้อมูลโดย ฝ่ายสื่อสารองค์กร กลุ่มพัฒนายุทธศาสตร์

      ปัจจุบันมีการให้วัคซีนพื้นฐานหลายชนิดฟรีแก่เด็กไทย แต่ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองที่มีฐานะพาบุตรหลานไปฉีดวัคซีนชนิดอื่นซึ่งมีราคาแพงเสริมเข้าไปด้วย วันเวลาผ่านไปวัคซีนเหล่านั้นราคาถูกลง แพทย์หลายท่านจึงมองว่าถึงเวลาแล้วที่ควรผลักดันวัคซีนบางตัวเพิ่มเติมสำหรับเด็ก
รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ จากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงวัคซีนที่ควรให้กับเด็กไทยมีดังนี้
1.
วัคซีนป้องกันเชื้อโรตาไวรัส สำหรับเชื้อโรตาไวรัสเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงรุนแรงในเด็ก ทำให้เด็กที่ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน และมีโอกาสเสียชีวิต ในเด็กที่มีอาการรุนแรงพบว่าเกิดจากเชื้อโรตาไวรัส 30 เปอร์เซ็นต์และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น หากมีการให้วัคซีนป้องกันจะช่วยลดอัตราการตายและการนอนในโรงพยาบาล ที่สำคัญ คือ ลดอาการป่วยที่รุนแรง ตอนนี้อยู่ระหว่างศึกษาความคุ้มค่าของวัคซีนอยู่
2.
วัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี โดยเชื้อเอชพีวีเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ปีหนึ่งมีผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 1 หมื่นคน มีผู้เสียชีวิตประมาณ 5,000 คนต่อปี วัคซีนตัวนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์พิจารณาว่า มีความคุ้มค่ามากน้อยเพียงใด ในบางประเทศฉีดให้ทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ต้องยอมรับว่าปัจจุบันพฤติกรรมทางเพศของเด็กวัยรุ่นค่อนข้างแย่ ถ้าฉีดวัคซีนตัวนี้เมื่ออายุมากขึ้น วัคซีนอาจไม่ได้ผลเพราะมีการติดเชื้อไปแล้ว ดังนั้น ต้องฉีดก่อนมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการติดเชื้อโดยเฉพาะในคนอายุระหว่าง 9-26 ปี อย่างไรก็ตาม มีผลการศึกษาพบว่าผิวและเนื้อเยื่อในช่องคลอดของคนอายุน้อยมีแนวโน้มไวต่อการติดเชื้อสูง ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องฉีดวัคซีนเร็วก่อนมีเพศสัมพันธ์และรับเชื้อ เพื่อป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ
3.
วัคซีนไอพีดี เป็นวัคซีนป้องกันเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส นิวโมเนียอี ปกติเชื้อตัวนี้ชอบเกาะอยู่ที่คอ แต่วันดีคืนดีร่างกายอ่อนแอ เชื้ออาจเข้าไปในกระแสเลือด และไปที่สมอง กลุ่มเสี่ยงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ และผู้สูงอายุ วัคซีนตัวนี้จะช่วยป้องกันโรคที่รุนแรง นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันภาวะปอดบวม หูน้ำหนวก แต่วัตถุประสงค์หลักคือป้องกันการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด และเข้าไปที่สมอง

4.
วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันวัคซีนที่ให้ลงไปเฉพาะกลุ่ม ปีหนึ่งประเทศไทยซื้อวัคซีนประมาณ 3 ล้านกว่าโดส ฉีดให้กับคนไทยประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ อาทิ ผู้สูงอายุเกิน 65 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัว ดังนั้นควรขยายการฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก การฉีดวัคซีนนี้ยังสามารถช่วยป้องกันโรคไอพีดีซึ่งเชื้อเกาะอยู่ที่คอได้ด้วย ยกตัวอย่างการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับเด็กนักเรียนญี่ปุ่นในอดีต ปรากฏว่าคนแก่ซึ่งอยู่ที่บ้านป่วยน้อยลง ตายน้อยลง คือ เด็กนักเรียนมาโรงเรียนนำเชื้อกลับไปให้คนในบ้าน คนอยู่ที่บ้าน คือ ปู่ย่าตายาย พอไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก็ป่วยและมีอาการรุนแรง จนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตจากภาวะปอดบวมจำนวนมาก ดังนั้น การฉีดวัคซีนตรงนี้จะช่วยป้องกันโรคทางอ้อม

ในอดีตวัคซีนเหล่านี้ราคาแพง แต่ปัจจุบันราคาถูกลง โดยเฉพาะการซื้อในปริมาณที่มาก สาเหตุที่ยังไม่สามารถให้วัคซีนเหล่านี้ฟรีแก่เด็กไทยได้ คงเป็นเพราะระบบที่วางไว้ ระบบตรวจสอบ ระบบการพิจารณาข้อมูล ต้องศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้ก่อน คงไม่ใช่เพราะรัฐบาลไม่มีเงิน อีกทั้งที่ผ่านมามุ่งเน้นการรักษามากกว่าการป้องกัน

ด้าน ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา และประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ แห่งประเทศไทย กล่าวว่า วัคซีนที่ควรให้กับเด็กไทย คือ วัคซีนป้องกันเชื้อโรตาไวรัส เด็กไทยมีปัญหาท้องเสียจำนวนมาก เวลาป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล ถ้าวัคซีนราคาถูกแล้วสามารถให้แก่เด็กไทยได้ก็นำค่ารักษาพยาบาลที่เด็กต้องไปนอนโรงพยาบาลไปซื้อวัคซีนแทน แม้การเสียชีวิตในบ้านเราจะไม่มาก แต่ยังพบได้อยู่ สาเหตุการเสียชีวิตไม่ใช่เพราะท้องเสียอย่างเดียว   แต่อาเจียนด้วย ทำให้ขาดน้ำ วัคซีนนี้เป็นชนิดรับประทาน หยอด ตอนอายุ 2 เดือน และ 4 เดือน ตอนนี้อยู่ระหว่างการทดลอง คาดว่าอีกไม่นานคงมีการให้วัคซีนตัวนี้

อีกตัวที่ควรให้กับเด็กไทย คือ วัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี หลายประเทศฉีดให้กับเด็กแล้ว แต่ประเทศไทยยังไม่ได้ให้ เรื่องมะเร็งปากมดลูกถือเป็นเรื่องใหญ่การให้วัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ตอนนี้ติดเรื่องราคาที่สูงอยู่

วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันไปเน้นฉีดให้กับผู้สูงอายุ แต่อย่าลืมว่าคนที่แพร่เชื้อคือเด็ก ดังนั้นควรมีการขยายฉีดให้กลุ่มเด็กมากขึ้น ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป จนถึง 5 ขวบ ทั้งนี้การฉีดในเด็กวัยเรียนเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องใช้เงินเยอะมาก และเด็กโตอาจจะไม่ให้ความร่วมมือ

ส่วนวัคซีนไอพีดีในต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มีการฉีดให้กับเด็กแล้ว แต่ราคาแพงอยู่ โดยจะมีการให้ทั้งหมด 4 เข็ม วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงของโรค

ปัจจุบันคนมีเงินสามารถเข้าถึงวัคซีนเหล่านี้หมดแล้ว ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างคนมีเงินกับคนไม่มีเงิน การที่เด็กจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนเพราะราคาแพงอยู่ แต่ถ้าซื้อในปริมาณมากวัคซีนจะราคาถูกลง

นับเป็นข่าวดีสำหรับเด็กไทยที่อนาคตอันใกล้นี้จะได้รับวัคซีนอีกหลายชนิดเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายแต่คงต้องอดใจรออีกสักระยะ.

นวพรรษ บุญชาญ : รายงาน


  View : 2.29K


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง


 วันนี้ 675
 เมื่อวาน 737
 สัปดาห์นี้ 5,335
 สัปดาห์ก่อน 6,556
 เดือนนี้ 21,976
 เดือนก่อน 57,053
 จำนวนผู้เข้าชม 871,144
  Your IP : 54.84.102.81