วันนี้ (23 มกราคม 2567) สถาบันราชานุกูล ร่วมจัดกิจกรรม Kick off การจัดระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวชเด็กและวัยรุ่น กทม. ณ ห้องประชุมเทเวศรวงศ์วิวัฒน์ ชั้น 20 เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โรงพยาบาลกลาง กรุงเทพมหานคร
พิธีเปิด และบรรยายพิเศษประเด็น "การตรวจคัดกรองภาวะสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นกรุงเทพมหานคร 8,000 คน" โดย รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต่อด้วยบรรยายพิเศษ ประเด็น "บทบาทกรมสุขภาพจิตต่อการดูแลภาวะสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น กรุงเทพมหานคร" โดย ผู้บริหารกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และแถลงข่าว kick off การจัดระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวชเด็ก
และวัยรุ่น กรุงเทพมหานคร "ตรวจค้ดกร่องภาวะสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น 8,000 คน"
จากนั้นบรรยายเรื่อง การส่งเสริมภาวะสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น กรุงเทพมหานคร โดย ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร, บรรยายเรื่อง สถานการณ์ปัญหาและการจัดระบบบริการสุขภาพจิต และจิตเวชเด็กและวัยรุ่น กรุงเทพมหานคร โดย พญ.ปรารถนา ชีวีวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มภารกิจสนับสนุนและพัฒนาเครือข่ายบริการ สถาบันราชานุกูล ปิดท้ายด้วยกิจกรรม Work shop พัฒนาแนวทางการการจัดระบบบริการสุขภาพจิต และจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ตามเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดย วิทยากรจากกรมสุขภาพจิต และกทม.
-------------------------------------------------------
กรมสุขภาพจิตจับมือกรุงเทพมหานคร Kick off จัดระบบดูแลสุขภาพจิตและจิตเวชเด็กและวัยรุ่น เดินหน้าพัฒนาระบบบริการแบบครบวงจร
วันนี้ (23 มกราคม 2567) กรมสุขภาพจิต เผยยังพบเด็กไทยมีพัฒนาการล่าช้า และปัญหาการกลั่นแกล้งรังแกกันในโรงเรียน (Bullying) ภาวะซึมเศร้า และพยายามฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น จับมือกรุงเทพมหานคร Kick off จัดระบบบริการสุขภาพจิตเพื่อตรวจคัดกรองภาวะสุขภาพจิตเด็ก พร้อมตั้งเป้าขยายผลการช่วยเหลือให้ครอบคลุม กทม.
นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากข้อมูล HDC กระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 29 กันยายน2566 ถึงรายงานสถานการณ์เด็กปฐมวัยทุกช่วงอายุที่ได้รับการคัดกรองแล้ว พบว่า มีพัฒนาการล่าช้า จำนวน 2,529 คน การจัดบริการสุขภาพจิตและจิตเวชเด็กและวัยรุ่น พบว่า ผู้ป่วยโรคออทิสติก จำนวน 1,090 คน เข้าถึงบริการ จำนวน 324 คน ร้อยละ 30 ผู้ป่วยสมาธิสั้น จำนวน 30,490 คน เข้าถึงบริการ จำนวน 3,400 คน ร้อยละ 11 และผู้ป่วยภาวะบกพร่องทางสติปัญญา จำนวน 13,639 คน เข้าถึงบริการ จำนวน 1,301 คน ร้อยละ 9 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวยังมีเป้าหมายที่ต้องการขับเคลื่อนให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น ความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมดำเนินการจัดระบบการดูแลสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ภายในพื้นที่โรงเรียน ชุมชน และสถานพยาบาลในกรุงเทพมหานคร และกระบวนการดำเนินการคัดกรอง รักษา ส่งต่อ และดูแลต่อเนื่อง กรมสุขภาพจิต มีนโยบายในการส่งเสริมป้องกันปัญหาสุขภาพจิตเด็กและเยาวชนร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การคัดกรองพัฒนาการ การส่งเสริมการกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยทั้งเชิงรับและเชิงรุก การคัดกรองเด็กและวัยรุ่นกลุ่มเสี่ยงและให้การดูแลช่วยเหลือ คัดกรอง ช่วยเหลือ ส่งต่อผ่านนวัตกรรมสุขภาพจิตดิจิทัล พัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคและปัญหาด้านสุขภาพจิตและจิตเวชเด็กและวัยรุ่น พัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีด้านสุขภาพจิตและจิตเวชเด็กและวัยรุ่น และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเครือข่าย จัดบริการเพื่อรองรับการส่งต่อผู้ป่วยจิตเวชเด็กและวัยรุ่นที่มีปัญหารุนแรง ยุ่งยากและซับซ้อน พัฒนาระบบส่งต่อกับเครือข่ายในพื้นที่ตามระบบ Zoning
นายแพทย์จุมภฏ กล่าวต่ออีกว่า กรมสุขภาพจิต โดยสถาบันราชานุกูลและสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวันรุ่นราชนครินทร์ มีเป้าหมายเพื่อค้นหาและช่วยเหลือเด็กกลุ่มเสี่ยงอย่างทันท่วงที มีระบบบริการมาตรฐานเฉพาะทางแบบไร้รอยต่อ เพื่อให้การเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขเป็นไปได้ง่ายและทั่วถึง ค้นหาและช่วยเหลือเด็กกลุ่มเสี่ยงด้วยเครื่องมือ DSPM/DAIM, TEDA4I และระบบสุขภาพจิตโรงเรียนวิถีใหม่ School Health Hero ร.ร.สังกัดสพฐ. ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ร.ร.สังกัดสำนักการศึกษา กทม. เพื่อป้องกันปัญหาการล้อเลียนรังแกกันในโรงเรียน (Bullying) ด้วยการพัฒนาและยกระดับศักยภาพครู (ครูแคร์ใจ) เพื่อการส่งเสริมสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น และ ประสานงานกับร.ร.สังกัด สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สพฐ. สถานสงเคราะห์/สถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็ก สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการดูแลกลุ่มเด็กเปราะบางทางสังคม รวมถึงการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต ทำงานร่วมกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ตลอดจนบูรณาการชุดข้อมูลทุกหน่วยบริการเข้าด้วยกัน ให้ประชาชนทราบสถานการณ์สุขภาพของคนกทม.อย่างแท้จริง
กรมสุขภาพจิตเชื่อว่า หากมีการพัฒนาระบบบริการแบบครบวงจรหรือเชื่อมต่อระหว่างหน่วยงานต่างๆ เด็กและวัยรุ่นในกรุงเทพมหานคร จะได้รับการคัดกรองอย่างทันท่วงที และได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างเหมาะสม โดยลดปัญหาความรุนแรงและจำนวนผู้ป่วยจิตเวชเด็กและวัยรุ่น